โตเกียวอะเกน : WWOOF DAY 8 Last day

วันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้จะต้องกลับโตเกียวแล้ว ตอนแรกฮิโรชิซังจะให้ไปเที่ยว
ไม่ต้องมาทำงาน แต่เราบอกว่าเราหยุดไปแล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แถมยังรู้สึกว่ายังทำงานไม่คุ้มค่าข้าวเลย ฮ่าๆ เรารู้สึกว่าอยากมาทำงานเลยขอฮิโรชิซังมาทำงาน วันนี้เข้างานสิบโมงเหมือนเดิม
ทานข้าวเสร็จออกมาปั่นจักรยานเล่น  ไปcycling road หลายวันติดละ
วันนี้เลยไปสั่งลาไร่วาซาบิซะหน่อย จะไปจัดไอติมวาซาบิอีกรอบ

เช้านี้อากาศดีมาก ฟ้าใส กับใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ^^
สนามเทนนิสกับ โรงยิมแถวๆบ้านที่ปั่นผ่านทุกๆวัน ตอนเย็นๆจะมีคนญี่ปุ่นมาตีเทนนิสที่นี่


อีกมุมนึง  วันนี้จักรยานสีน้ำเงิน


ปั่นมาเรื่อยๆ ไปทางไร่วาซาบิ
โอ้ว เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม (ร้องเพลง แฮ่ๆ)


ปั่นมาถึงไร่วาซาบิ เพิ่งจะเช้าๆคนยังไม่เนอะมาก และร้านไอติมยังไม่เปิด ฮ่าๆ เรามาเช้าเกินไป
เดี๋ยวไปเดินเล่น ค่อยกลับมาใหม่


ไปเดินเล่นกันก่อน อากาศที่ไร่วาซาบิ สดชื่นสุดๆ


เดินวนไปวนมา กลับมาที่ร้านไอติม ร้านเปิดแล้ว
จัดมา 1 โคนสั่งลา  ยูมิจังจะกลับโตเกียวแล้วนะคะ T T


กินไอติมเสร็จ ต้องแวะไปไปรษณีย์อีก ไปส่งโปสการ์ดหาตัวเอง อิอิ

ระหว่างทาง
ดูท้องฟ้าสิ ดูก้อนเมฆนั่นสิ  ดูภูเขานั่นสิ !!


ฉันชอบทางมาไร่วาซาบิมากๆเลย อากาศเย็นๆ ปั่นจักรยาน วิวภูเขาล้อมรอบ  สองฝั่งเป็นทุ่งนา
เป็นโมเมนต์ที่ Hello World !!!!!!!!!!! สุดๆ ^^


มุมยังไม่ได้  ขยับมาตรงกลางละกัน  วิวมันสุดลูกหูลูกตาจริงๆค่ะ คุณผู้โช้มมมม !!! ^^
ทางตรงนี้มันเป็น slope ถ้าปั่นมาเร็วๆแล้วปล่อยมือสองข้างจะฟินมากกกก

แต่เราปล่อยไม่ได้

เดี๋ยวล้ม!!! 555555+ ปล่อยมือข้างเดียวพอ !! ฮ่าๆๆ


อีกรูป บ้านคนสีขาวๆ เล็กๆไกลๆตรงนู้น ให้ความรู้สึกว่าอยู่ประมาณสวิตเซอร์แลนด์
(ยังไม่เคยไปนะ แต่มีความมโน  5555+)


แวะมาส่งโปสการ์ดกันก่อน


นี่คือโปสการ์ดของเรา เป็นรูปไร่วาซาบิตอนหิมะตก คงสวยน่าดูเลย
ซื้อจากร้านของฮิโรชิซัง 100 เยน

เจอกันที่ไทยจ้า ^___^


ส่งโปสการ์ดเสร็จจากนั้นก็กลับเข้าไปที่ร้านตอนสิบโมง วันนี้วันพุธ ไม่มีลูกค้าเลย
ตอนเช้าคินูโยะซังถามว่าเราจะกลับโตเกียวยังไง
เราบอกว่าเดี๋ยวนั่งรถไฟไปลงมัตสึโมโต้แล้วต่อรถบัส กลับชินจูกุ ทำเหมือนตอนขามา
แต่คินูโยะบอกว่ามีรถจากAzumino ไปลงที่ชินจูกุเหมือนกัน  เดี๋ยวใหฮิโรชิซังจองให้
เราบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจ  แต่คินูโยะซังบอกไม่เป็นไร  คุยกับฮิโรชิซังให้แล้ว
ระหว่างที่ไม่มีลูกค้า ฮิโรชิซังก็ช่วยจองตั๋วขากลับโตเกียวให้
จากนั้นเรามายืนรอเรียกลูกค้าหน้าร้านกับกิ๊ฟซ่าจัง
จะเที่ยงแล้วมีลูกค้ามานั่งทานกาแฟแค่คนเดียวเอง

วิวจากหน้าร้าน ตอนนี้เที่ยงแล้ว  อากาศดีมาก บอกเลย^^


เที่ยงกว่าๆ คินูโยะก็มาหาที่้ร้าน ถามว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ด้วยกันมั้ย? เราก็ไม่ใช่แนวนั้น ฮ่าๆ
ก็ว่าจะไม่ไป จะอยู่ที่ร้าน  แต่คินูโยะซังบอกว่าไปเถอะ ฮิโรชิซังอนุญาต
เราก็โอเค ไปก็ได้ค่ะ ^^  คินูโยะ ขับรถพาไปทานข้าว ถามว่าเราอยากทานอะไร
นี่ก็คิดไม่ออก ไม่ใช่เซียนอาหารญี่ปุ่น  เลยเอาแบบเบสิคเลยว่า
"ยูมิจังอยากกินราเมงค่ะ" (เดี๋ยวกลับโตเกียวจะไปจัดราเมงข้อสอบอีกรอบ  แก้ตัว 555+)

คินูโยะซัง ก็พาไปร้านราเมง ไปทานราเมง อร่อยดี ทานเสร็จก็ไปพิพิธภัณฑ์
ระหว่างทาง  บนยอดของภูเขามีสีขาวๆ คินูโยะซังบอกว่าเป็นหิมะ!

จะว่าไป ยอดของฟูจิซังตอนนี้ก็มีหิมะตกแล้วเช่นกัน ก่อนกลับไทยจะกลับไปซ่อมคาวากูจิโกะ
หลังจากที่เดือนกุมภา เรามาตามหาหิมะครั้งแรกในชีวิต!!

เผื่อใครไม่ได้ตามแต่แรก เรามาญี่ปุ่นครั้งแรกเพื่อตามหาหิมะ!! ลิ้งค์นี้เลยจ้า >> http://arrowinjapan.blogspot.com/2015/04/ep41-kawaguchiko-1.html


ขับมาเรื่อยๆ มองไปสองข้างทาง ภูเขาที่นี่ลูกใหญ่มาก สูงมากๆ ล้อมรอบเมืองสุดลูกหูลูกตาจริงๆ
และก็มาถึงพิพิธภัณฑ์  ปรากฏว่าค่อนข้างเงียบเหงา พอเดินไปดูที่ป้ายตรงประตูทางเข้า แปะไว้ว่า

"ปิดทุกวันพุธที่ 2 และ 4 ของเดือน"

ผ่างงงงง!!!  วันนี้เป็นพุธที่ 2 ของเดือน
ปิดค่ะ!!คุณผู้ชม ฮ่าๆๆ

คินูโยะซังก็เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เข้าไปข้างใน เลยเดินเล่นรอบๆ จะเป็นเนินๆ  มีต้นไม้เล็กๆขึ้นประปราย มองไปรอบๆ บวกกับอากาศเย็น ฟีลเหมือนอยู่ยุโรป (ยังไม่เคยไปเหมือนกัน  มีความมโนระดับสิบ 55555+)


มองไปอีกฝั่งนึง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว


คินูโยะพามานอนเล่นเอนหลัง อยู่บนพื้นหญ้าใต้ต้นไม้  มองท้องฟ้าใสๆ แล้วก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ
หลังจากที่ผิดหวังจากการที่ไม่ได้เข้าพิพิธภัณฑ์วันนี้

หายเมื่อยแล้วคินูโยะซัง พาไปเดินเล่นต่อ เดินไปเดินมา คินูโยะซังไปเจอต้นแอปเปิ้ล!!
เลยชี้ให้เราดู  เราตื่นเต้นใหญ่เลยค่ะ คุณผู้ชม เกิดมาไม่เคยเห็นต้นแอปเปิ้ล
วันนี้ได้เห็นของจริงแล้ว

แถ่แด๊นนน!!!! ต้นแอปเปิ้ลลลล !!!!!!!! ^___^


ออกลูกเต็มต้นเลย  มาดูใกล้ๆมั่ง


สีเขียวก็มี  เอ๊ะ! หรือว่ายังไม่สุก 55555+


เดินเล่นมาเรื่อยๆก็มาเจอ"ทุ่งดอกลาเวนเดอร์" (แบบมินิ)
มีความโลกสวยขึ้นมาทันใด ฮ่าๆๆ


ถ่ายรูปตรงนี้เสร็จ คินูโยะซังจะพาไปเที่ยวดูแกลลอรี่กันต่อ

ใบไม้เปลี่ยนตรงลานจอดรถ ^^



จากนั้นก็ไปเที่ยวแกลลอรี่กันต่อ ทางไปค่อนข้างลึกลับ เป็นแกลลอรี่ที่ค่อนข้างลึกลับ อยู่ในป่าโน่นแน่ะ
แต่ก็ยังไม่คนหาเจอ น่าจะเป็นคนที่ชอบแนวๆนี้ ถึงจะรู้ว่ากลางป่าแบบนี้จะมีแกลลอรี่อยู่ด้วย

มาถึงแล้วเข้าไปด้านในกัน จะขายเป็นพวกเซรามิก แจกัน แอบดูราคาแพงมากเลยนะ หลายหมื่นเยน
ถ้าทำของเค้าแตกนี่  ไม่อยากจะคิด !! ><



เสร็จจากแกลอรี่ คินูโยะซังถามว่าอยากไปที่ไหนอีก เราบอกว่าอยากนั่งรถเล่นไปตามมาง cycling road เรื่อยๆ อยากรู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไง  เพราะไปปั่นจักรยานช่วงเช้า ปั่นไปได้ไม่ไกลมาก เพราะกลัวกลับมาเข้างานไม่ทัน

แต่คินูโยะบอกว่าจะพาไปที่ๆนึง ที่ไม่ใช่ cycling road แล้วคินูโยะซังก็ขับรถพามาที่ที่นึง
นั่นคือ บ่อน้ำพุร้อนนั่นเอง!!

เราเคยถามว่าบ่อน้ำพุร้อนไกลมั้ย  อยากมีโมเมนท์ อากาศหนาวๆแล้วมาแช่เท้าที่บ่อน้ำพุร้อน
ถ้าขับรถมาไม่ไกล ประมาณ 4 กิโล แต่ถ้าปั่นจักรยานมาเอง ไกลแน่นอน ประมาณ 30 นาที
แถมเข้างานเช้าซะด้วย ไม่น่าจะทันเลย ปั่นไปไหนไม่ได้ไกลนอกจาก cycling road กับไร่วาซาบิ

เหมือนคินูโยะซัง จะจำได้ว่าเราอยากมาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน  ก็เลยพามาเที่ยวก่อนที่เราจะกลับโตเกียว (ใจดีจัง ^^ )

ถึงแล้วบ่อน้ำพุร้อน เข้าฟรีจ้า ไม่เสียตังค์



อยู่กลางป่าเลย ตอนนี้บ่ายสองกว่าๆ อากาศเย็นๆ บรรยากาศดี เงียบสงบมาก

ด้านข้างมีป้ายด้วยแต่อ่านไม่ออก เย่ !! 555+


มีคนญี่ปุ่นมานั่งแช่เท้าอยู่ก่อนหน้าเราประมาณ 2-3 คน
คินูโยะซัง เตรียมผ้าขนหนูมาให้เช็ดเท้า  เตรียมชาร้อนกับส้ม มาให้ทานด้วยระหว่างนั่งแช่เท้า^^


น้ำร้อนๆ สบายๆ ตรงพื้นในบ่อจะเป็นตุ่มๆ ขรุขระ เอาไว้เดินเหยียบ นวดฝ่าเท้าไปในตัว โอ้วเย

ตอนนี้นั่งแช่เท้าจิบชาร้อนกับทานส้ม ที่คินูโยะเตรียมมาให้ ^^


นั่งไปสักพักใหญ่ ถึงเวลาต้องกลับแล้ว เราบอกให้คินูโยซังไปส่งที่สถานีรถไฟ เพราะเราจะเล่นเน็ท
ติดต่อกับที่บ้าน + เช็คเฟสนิดหน่อย คิดๆแล้วก็ใจหาย พรุ่งนี้เช้าเราก็ต้องจากที่นี่ไปแล้วเหรอ
สนุกมากๆเลยนะ แม้จะมาอยู่ที่นี่เพียงแค่อาทิตย์เดียว มาคนเดียว ไม่มีใครรู้จัก แล้วก็ไม่รู้จักใคร

ทุกคนที่นี่ ดีกับยูมิจังมากๆเลยค่ะ โฮสต์ก็ดูแลดีเหมือนลูกคนนึงเลย นาโอเอะ กิ๊ฟซ่าจัง รวมถึงคุณยายที่เจอที่ cycling road น้องๆนักเรียนที่นี่  เวลาเราเจอเราชอบไปทักเค้า "คนนิจิวะ" ตลอดๆ
เมืองก็น่ารัก ถ้ากลับโตเกียวไป คงคิดถึง ถนนโล่งๆ ทาง cycling road ไร่วาซาบิ อาหารอร่อยๆฝีมือโฮสต์ อาทิตย์เดียว แต่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความทรงจำมากมาย


เล่นเน็ทเสร็จ เราก็เดินกลับบ้าน ความจริงแล้วคินูโยะซังบอกให้ไปเอาจักรยานที่ร้านมาปั่นกลับบ้านได้
แต่เราเกรงใจ ถ้าเรากลับโตเกียววันพรุ่งนี้ คินูโยะซังก็ต้องเอาจักรยานกลับมาไว้ที่ร้านเอง
วันนี้เราเลยเดินกลับ ฟ้าใกล้จะมืดแต่ยังไม่อยากเข้าบ้าน เดินเลยต่อไปที่ cycling road (บอกแล้วว่าชอบทาง cycling road มากๆ ) ไปสั่งลาซะหน่อย อากาศก็หนาวมาก คนก้ไม่มี นานๆมีรถผ่านมาคันนึง
ฉันมองไปรอบๆ คิดว่าต้องกลับแล้ว มันหมดเวลาแล้ว  ว่าจะไม่ร้องแล้ว เพราะเมื่อวานก็ร้องไปแล้ว

วันนี้ก็มาร้องไห้อีก  คือใจหายอ่ะ T___T
cycling road ...พรุ่งนี้ยูมิจังจะกลับแล้วนะ  ไม่ได้มาปั่นจักรยาน โดดเซลฟี่ ถ่ายรูปอีกแล้วนะ แง T^T


เดินวนไปวนมา น้ำตาไหลพรากๆอยู่คนเดียว จนเริ่มค่ำ
เลยกลับบ้านไปอาบน้ำ กินข้าว หลังทานข้าวเสร็จ คินูโยะซังให้สมุดมา เขียนความประทับใจ
ฟีลประมาณเฟรนด์ชิพ อะไรประมาณนี้ ตายละ! ไม่ค่อยได้เขียนภาษาอังกฤษเท่าไหร่
แกรมม่าร์บอกได้เลยว่า ความเป๊ะ! อยู่ตรงไหน ฮ่าๆ

ในสมุดมี WWOOF หลายชาติเลย ออสเตรเลีย ไต้หวัน ฮ่องกง ก่อนหน้าเราก็มีคนไทยมาด้วยนะ
เป็นผู้หญิงมาคนเดียวเหมือนกัน  ถามคินูโยะซัง เห็นบอกว่าที่นี่มี wwoofer มาประมาณ 20 กว่าคน
ถือว่าเยอะเหมือนกันนะ

ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ ที่ดูแล ให้ความช่วยเหลือ ทำอาหารอร่อยๆให้ทาน
วันนี้ก็พาไปเที่ยวอีก งานก็เลยไม่ได้ทำ ใจดีกับยูมิจังมากๆเลยค่ะ  มาWWOOFที่นี่ได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆเลย

"อาริกาโตะโกไซมัสค่าา" -/\-


เขียนไดอารี่เสร็จก็เก็บของ เตรียมกลับโตเกียววันพรุ่งนี้เช้า ความจริงฮิโรชิซังบอกว่าอยู่เที่ยวก่อนก็ได้ ค่อยกลับ เพราะพรุ่งนี้ร้านปิดวันพฤหัสอยู่แล้ว แต่เราบอกว่าจะกลับแต่เช้าเลย เพราะไม่อยากไปถึงโตเกียวตอนค่ำ โอ้โห ใจดีสุดๆ ที่สุดแล้วจริงๆ (ปลื้ม ^^ )

นอนก่อน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า คินูโยะซังจะไปส่งขึ้นรถ

หวังว่าคงไม่ร้องไห้นะอีกนะ ..ยูมิจัง

โปรดติดตามตอนต่อไป Back to Tokyo >> http://arrowinjapan.blogspot.com/2016/12/back-to-tokyo.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น