EP. 2.3 แวะมาดูคิวรถบัสที่Shinjuku

EP. 2.3  แวะมาดูคิวรถบัสที่ Shinjuku


บ่ายสองกว่าเราออกมาจากที่พัก ไปขึ้นsubway สายmetro สถานีAsakusa ไปลงสถานี Shinjuku
เห็นแผนที่subwayที่โตเกียวนี่ อึ้งไปเลยตอนแรกว่าจะไม่มา เยอะเกิน งงแน่หลงแน่ แต่จริงๆไม่มีอะไรนะ จับดีๆทีละเส้นก็พอได้อยู่  เค้าบอกว่า (เค้านี่คือใครก็ไม่รู้ ฮ่าๆ) ว่ากันว่าถ้าผ่านโตเกียวไปได้  ไปปารีส นิวยอร์คนี่สบายเลย  ขนาดนั้นเลยเรอะ 
จากAsakusa ไป Shinjuku นั่งตามนี้ Asakusa > Akasaka mitsuke > Shinjuku

พร้อมแล้วลุย!

เข้ามาในรถไฟแล้ว ป้ายในรถไฟมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่ไม่ต้องกลัวหลง

ถึงสถานี Akasaka Mitsuke เราจะinterchange ที่สถานีนี้ เปลี่ยนจากสายสีเหลือง เป็นสายสีแดง เพื่อไปลง Shinjuku

ออกจากรถไฟ ก็ไปยืนฝั่งตรงข้ามเลย รถไฟฟ้าใต้ดินที่โตเกียว นั่งไม่ยาก แค่ดูว่าสถานีปลายทางเราอยู่ platform(ชานชาลา)ไหน ก็ไปยืนให้ถูกฝั่ง แบบเดียวกับBTS ในกรุงเทพแหละ สมมุติอยู่สยาม แต่จะไป อโศก ก็ไปยืนตรงชานชาลาที่ปลายทางบอกว่า ไปแบริ่ง เป็นต้น ไม่งงนะ : ) 

รถไฟมาแล้ว จะมีป้ายบอกด้วยว่าอีกกี่นาทีรถไฟจะมา และรถไฟมาเป๊ะ ตรงเวลามากๆ 

เข้ามาในรถไฟ  โชว์เป็นสถานี Akasaka mitsuke (อ่านว่า อะคาซากะ มิท-สุ-เกะ) เราอ่านชื่อสถานีนี้ว่า อะคาซากะ มิท-สุก  ฮ่าๆ  (ไม่มีเซนท์ความเป็นญี่ปุ่นเลย  อ่านผิดตั้งแต่ยูโน่ (Ueno) แล้ว ฮ่าๆ )

ถึงแล้ว Shinjuku พร้อมหลง ! เอ้ย! พร้อมลุย !!

คิวรถบัสอยู่ West exit ของสถานี Shinjuku เดินออกมาหาป้าย West exit แล้วตามป้ายไป

West gate เลี้ยวซ้าย (West exit กับ west gate ความหมายเดียวกัน คือทางออกฝั่งตะวันตก ) ทีนี้ให้ตามป้าย Keio Line ไป

สอดบัตร แล้วรับบัตร แล้วเดินออกมาจากตัวสถานี


Exit A12  Keio line ตามป้ายไปเลย

โผล่มาเป็นแบบนี้ 

ให้มองไปทางฝั่งขวาจะเป็นโถงโล่งๆ  มองหาบันไดที่อยู่ซ้ายมือ

เดินขึ้นบันไดมาจะเป็นแบบนี้ เห็นตึกแดงๆ ในกรอบสี่เหลี่ยมนั่นคือห้าง Yodobashi
ตรงข้ามห้างนี้คือ คิวรถบัส ที่จะนั่งไป Kawaguchiko กรี๊ดด!! ชั้นหาเจอ ชั้นไม่หลง สเต็ปดีมากๆ ฮ่าๆ

เราบุคตั๋วมาจากเมืองไทย เราจะไปKawaguchiko วันเสาร์ที่ 28 กุมภา คือพรุ่งนี้ วันนี้วันศุกร์ที่27 เราเอาตั๋วไปยื่นเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้ เค้าบอกว่าตั๋วยู เป็นของวันพรุ่งนี้ ให้เอามาจ่ายตังค์พรุ่งนี้นะ เราก็อ่อๆ ตามนั้น ชั้น1 นี่สำหรับขายตั๋วของวันนั้นๆ ถ้าจะจองล่วงหน้าต้องขึ้นไปซื้อตั๋วชั้น2

เรามีปัญหาอย่างนึงคือ ไม่แน่ใจว่าที่Kawaguchiko จะมีหิมะ รึเปล่า เพราะเช็คพยากรณ์อากาศ Sunny แดดดีมากจ้า ท้องฟ้าแจ่มใส เห็นฟูจิ ชัดแจ๋ว หิมะตกล่าสุด อาทิตย์ที่แล้ว นี่มันอาทิตย์กว่าแล้ว ไม่รู้จะมีเหลือให้เห็นรึเปล่า แต่เรามาเล่นหิมะ ไม่เน้นฟูจิ ที่เลือกไปที่นี่เพราะ ไม่ไกลจากโตเกียว นั่งบัสไปกลับวันเดียวได้ (ประมาณ กรุงเทพ-บางแสน) ถ้าไปเล่นที่เมืองอื่น จะไกลแล้วก็ใช้เวลาเดินทางมาก เรามีเวลาเที่ยวที่ญี่ปุ่นเพียงน้อยนิด   แล้วก็Kawaguchikoไปง่าย  ถ้าไปทางรถไฟต้องนั่งหลายต่อ เดี๋ยวงง พอดีมีไปทางบัส คือนั่งบัส ยิงยาวจากShinjuku ไปลง Kawaguchiko ได้เลย เราว่าอันนี้ง่ายดี เหมาะกับเรา ถามว่าทำไมไม่ไปลานสกี เราชอบแบบธรรมชาติมากกว่า เล่นข้างทางก็ดีใจแล้ว ถ้าไปลานสกี พร็อบต้องเยอะ มีเสียค่าเข้า ค่ากระเช้า ค่าชุดนู่นนี่ เยอะ! ถ้าเล่นสกีแล้วขาหัก ไม่รู้จะแบกตัวเองกลับไทยยังไง มาคนเดียวด้วย เลยคิดว่าไม่ไปลานสกีจะดีกว่า ก็เลยเดินไปถามคนขับ เป็นคุณลุงชาวญี่ปุ่น

เรา : ลุงคะ วันนี้ที่Kawaguchiko มีหิมะมั้ยคะ?
ลุง : Ticket Ticket (ตั๋วเหรอ)
เรา : ไม่ใช่ค่ะ ตั๋วหนูมีแล้ว หนูถามว่า วันนี้ที่Kawaguchiko มีหิมะมั้ย

ลุงไม่เข้าใจเราอ่ะ ลุงพูดญี่ปุ่นรัวๆใส่เรา เราเลยหยิบโทรศัพท์ออกมา เอารูปฟูจิ ที่Kawaguchiko วันที่มีหิมะตก ให้ลุงดู แล้วชี้บอกลุงว่า Snow snow ลุงก็ยังรัวภาษาญี่ปุ่นใส่เราไม่หยุด แงๆ จนมีคนขับอีกคนนึงเดินมา เราก็ถามเค้าว่า Kawaguchiko มีหิมะมั้ย  เค้าก็พูดอังกฤษไม่ได้อีก แงๆ

พี่ชาย..ไม่มีใครเข้าใจชั้นเลย”  (ทำเสียงนางเอกซีรีย์เกาหลี ฮ่าๆ) 

จนมีคนขับอีกคนนึง วิ่งมาหาเรา สรุปมีคนขับรถบัสกำลังรุมเรา 3 คน เป็นหนุ่มญี่ปุ่น หุ่นตุ้ยนุ้ยน่ารัก 
น้ำตาจะไหล คนนี้พูดภาษาอังกฤษได้
เรา : วันนี้ที่Kawaguchiko มีหิมะมั้ยคะ
เค้า : หิมะเหรอ ไม่แน่ใจนะ วันนี้ที่Kawaguchikoอากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใส
 เรา : พอดีว่าไอไม่เคยเห็นหิมะ ไออยากเห็นหิมะ เลยถามว่ามีหิมะมั้ย
เค้า : หิมะเหรอ ก็อยู่บนยอดฟูจิไง ยอดฟูจิก็มี
เรา : ไม่ใช่อย่างงั้น (บนยอดฟูจิเคยเห็นแล้ว ตอนนั่งเครื่องบินผ่าน) ไอหมายความว่าไออยากสัมผัส ไออยากปั้นSnow man
เค้า : อ๋อ หิมะตามพื้นน่ะเหรอ ไม่เห็นนะ น่าจะละลายไปหมดแล้ว
เรา : melt! melt ! อะไรนะ ละลายหมดแล้วเรอะ !! แงๆ ไอบินมาไกลเพื่อหิมะเลยนะ ไอไม่เคยเห็น ไออยากเล่นหิมะ แงๆ  (เรายืนงอแง งอแง อยู่ตรงรถบัส T^T )
เหมือนคนขับรถ 3 คน เค้าก็พยายามช่วยเราเต็มที่ ดูท่าทางเค้าก็หนักใจเหมือนกัน เพราะไม่รู้จะไปหาหิมะจากไหน เพราะละลายไปหมดแล้ว เค้าปรึกษากันเป็นภาษาญี่ปุ่นจริงจังมาก ดูเค้าไม่ทิ้งนักท่องเที่ยวเลยนะ เค้าช่วยเราเต็มที่ เราก็เลยบอกว่า โอเค ไม่เป็นไร แต๊งกิ้ว อาลิกาโตะ (ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าขอบคุณ )

มาญี่ปุ่น ท่องภาษาญี่ปุ่นมาสามคำ

ซูมิมาเซน = Excuse me
โกเมนนาไซ = Sorry
อาลิกาโตะ = Thank you

เราเดินออกมาจากคิวรถบัส คิดแล้วคิดอีก พรุ่งนี้จะไปKawaguchiko ดีมั้ยนะ มันไม่มีหิมะอ่ะ แงๆ เออ ค่อยว่ากัน ตอนนี้รีบไปตามรอยหนังFast ภาค3  Tokyo Drift ดีกว่า  


ตามกันต่อที่ >> EP. 2.4 วิ่งเล่นที่Shibuya คลิก >>http://arrowinjapan.blogspot.com/2015/03/ep-24-shibuya.html

Facebook : https://www.facebook.com/Journey-of-Arrow-1161356250559423/?fref=ts

2 ความคิดเห็น: