EP. 2.4 วิ่งเล่นที่ Shibuya

EP. 2.4   วิ่งเล่นที่ Shibuya

ตอกแรกโปรแกรมทัวร์วันนี้จะเป็น Shinjuku Harajuku - Shibuya แต่กว่าจะเข้าเมือง เก็บของที่พัก ปาไปบ่ายสองกว่าแล้ว เลยตัดHarajuku ออกไป วันนี้เลยแค่แวะไปดูคิวรถบัสกับ ไปเดินข้าม5แยก Shibuya ในตำนาน
เคยเห็น5แยก Shibuya ตอนอยู่ม.3 ในหนังFast ภาค3  Tokyo drift เคยได้ยินแต่สี่แยก นี่มีห้าแยกด้วยเหรอ    
ในฉากนั้นเจ๋งมากๆเลยนะ ขับยังไงไม่ให้ชนคน คนเยอะมาก  เดี๋ยวเย็นนี้ไปวิ่งเล่นที่ 5 แยกShibuya

เราเดินจากคิวรถบัส หน้าห้างYodobashi จะมุดลงรถไฟฟ้าใต้ดินทางเดิม  แต่ก่อนมุดลง เราเห็นคนญี่ปุ่น กลุ่มใหญ่ ประมาณเกือบ 20 คนอ่ะ มุงอะไรกันไม่รู้ ด้วยความอยากรู้ของเรา (งานเผือกต้องมา ฮ่าๆ) ก็เลยไปมุงกะเค้า นึกว่ามีคนตีกัน  หรือมีโชว์อะไรซักอย่างรึเปล่า พอไปยืนๆซักพัก ไม่เห็นมีอะไรเลย ทำไมเค้าต้องรวมกลุ่มกันตรงนี้ด้วย ชะเง้อดูไปด้วยว่ามุงอะไรกันอ่ะ ซักพักเราเริ่มเกิดอาการ ตึ้บ! กลิ่นบุหรี่ ตึ้บเลย เลยเริ่มสังเกต คนกลุ่มนี้ ผู้หญิง ผู้ชาย วัยรุ่น คนแก่ ทุกคนคีบบุหรี่หมดเลย ก็เลยถึงบางอ้อ อ้อ!  Smoking area นั่นเอง ! ฮ่าๆ ตั้งแต่มาจะเห็นคนญี่ปุ่น เดินกันฉับๆ เดินเร็วมากๆ ไม่เคยเห็นเค้าอยู่กันเป็นกลุ่มแบบนี้ ไอ้เราก็นึกว่ามีคนตีกัน  ที่แท้เค้ายืนสูบบุหรี่กันนี่เอง  แต่เค้ามีระเบียบวินัยดีนะ ยืนสูบในที่ที่ให้สูบ ไม่เดินไปสูบไป เดินออกมาจากวงเงียบๆพร้อมขำตัวเองไปด้วย ฮ่าๆ เรามุดลงใต้ดินอย่างมั่นใจเพื่อไปขึ้นรถไฟ จะไป Shibuya เดินตามป้ายsubway ไปอย่างมาดมั่น ฉับๆ ปรากฏว่าป้ายหายไปละ อ้าว!เราอุตส่าห์เดินกลับทางเดิม สุดท้ายเดินวนๆ มาเจอโถงโล่งๆที่เดิม สรุปคือ หลงจ้า  ไม่รอดอ่ะ!  ว่ากันว่าถ้าไม่หลงที่Shinjuku ถือว่ามาไม่ถึงโตเกียว วันนี้เรามาถึงโตเกียวเต็มตัวแล้วนะ เพราะหลงแล้ว ฮ่าๆ เอ้า! เดินไปใหม่ ลงมาใต้ดินจนได้ จากShinjuku ไปShibuya นั่งตามนี้
Shinjuku > Shinjuku sanchome > Shibuya นั่งแป๊บเดียว เพราะสองที่นี้ไม่ไกลกันมาก มาถึง Shibuya ประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง  5แยก Shibuya ให้ออกExit 8 โผล่ขึ้นมาจะเจอ โบกี้รถไฟสีเขียว ด้านในมีหนังสือให้อ่านด้วย


 ตรงข้ามโบกี้เป็น รูปปั้นฮาจิโกะ   

ส่วนห้าแยกShibuya ในตำนานก็อยู่ตรงนี้นี่เอง !! ตึกฝั่งตรงข้ามตรงหน้าเรา คือ Tsutaya ชั้น2 จะเป็นStarbucks

มองไปขวามือ จะเป็น เห็นเป็นรางรถไฟ JR

ตอนแรกจะเดินข้ามห้าแยก เดินข้ามไปเดินข้ามมา แบบอยากมีส่วนร่วมอ่ะ แล้วก็ไปกินStarbucks ที่ชั้น2 จะได้ดูวิว คนเดินข้ามห้าแยกด้วย แต่มองขึ้นไปแล้ว เต็มจ้า เลยไม่กินก็ได้ เดี๋ยวจะพาไปแวะ ร้านMugiwara เป็นร้านขายเอฟวี่ติง จิงเกอเบล เกี่ยวกับOne piece แผนที่ไม่มี กะมาถามคนแถวนี้ ฮ่าๆ ร้านจะอยู่ที่ห้าง Parco แต่ห้างนี้มีสามตึก ร้านMugiwara จะอยู่ Parco Part1 เราเซฟรูปห้างParco Part1 ไว้ในโทรศัพท์ กำลังรอข้ามแยก เลยลองถามน้องนักเรียนญี่ปุ่นผู้หญิงที่ยืนข้างๆกัน


เรา : ซูมิมาเซน (ยื่นโทรศัพท์ให้ดูรูปแล้วชี้ๆรูป  ใบ้เต็มที่)
น้องนักเรียน : Can you speak English?
เรา : Yes, จัดมาเลย
น้องนักเรียน : ตรงไป เลี้ยวซ้าย ห้างอยู่ซ้ายมือ
เรา : อาลิกาโตะ (ยิ้มสยามไป 1 ที)

เดินข้ามแยกมา ถ้าหันหน้าเข้าตึก Tsutaya ให้เดินไปถนนฝั่งขวามือเรา ฝั่งที่พระเอก drift มาฝั่งนี้ตามลูกศรในรูป


เราเดินมาเรื่อยถึงแยกแรกซ้ายมือ มองเข้าไปไม่เห็นห้างParco เลยถามผู้หญิงญี่ปุ่นที่ยืนข้างๆกัน  เอารูปให้ดูเหมือนกัน แล้ว ชี้ๆ  เค้าถามเราว่าเราพูดอังกฤษได้มั้ย เราก็โอเค ได้ๆ เค้าบอกตรงไปอีก ห้างอยู่ซ้ายมือ
สรุป ข้ามมาแล้วให้เดินอีก 2 แยก ห้างอยู่แยกที่2 ซ้ายมือ
เจอแล้ว Parco

คนไทยมาเยอะจริง มีภาษาไทยด้วย

ห้างนี้แหละ ไม่ผิดแน่ เข้าไปกันเลย

ขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น6  ร้านอยู่ติดกับบันไดเลื่อนเลย

ในร้านมีของให้เลือกเยอะ ใครชอบ One piece  ก็ฟินกันไป

หลังจากเดินหลงที่Shinjuku ยังไม่ได้นั่งเลย  เลยเดินลงบันไดเลื่อน เจอโซฟา พร้อมกับ คำว่า Free Wi-Fi สวรรค์มาโปรด ขออัพรูปทักทายแฟนเพลงที่เมืองไทยแป๊บ หลังจากเมื่อคืนเวิ่นเว้อมากที่สุวรรณภูมิ ป๊อดจัด ไม่กล้ามา กลัว บลาๆ สุดท้ายก็มาจนได้ เราตัดสินใจไม่ผิดอย่างแรงที่มา แฮปปี้มาก โตเกียวหนาวมาก ฮ่าๆ นั่งพักเหนื่อยก็เดินกลับไป 5แยก ไปนั่งเล่นดูคนข้ามถนน คนข้ามเยอะ แต่เค้าเดินไม่ชนกันเลยนะ 


มาถึงวันแรก อย่าจัดหนักมาก ยังงงๆกับเวลาอยู่ ที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง 5โมงครึ่งเริ่มมืดแล้ว หน้าหนาวมืดเร็ว กลับดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นไปขึ้นรถไป Kawaguchiko เรานั่งรถไฟกลับมาที่ Asakusa หกโมงครึ่งโตเกียวมืดแล้ว นักท่องเที่ยวที่วัดเซ็นโซจิเริ่มทยอยกลับ ไม่เหมือนตอนกลางวันคนเยอะมาก

เราเริ่มหิว ไม่เริ่มแหละ หิวเลย เดินผ่าน Family mart เลยเดินเข้าไปจะซื้อน้ำเปล่า ความฮาเริ่มมา มาประเทศเค้าก็ขอกินน้ำประเทศเค้าหน่อยละกัน เราไปหยิบน้ำมาขวดนึง ทั้งขวดฉลากเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลย ก็คิดว่าน้ำเปล่า ใสกิ๊งทั้งขวด ก็หยิบมาสิ ถือไปจ่ายตังค์
ป้าแคชเชียร์: No water , No water (พร้อมโบกมือหยอยๆ ส่ายหน้า)
เรา :  อ้าว!  งานงอกละ หยิบอะไรมากินวะเนี่ย ฮ่าๆ เลยบอกป้าไปว่า งั้นไอขอเปลี่ยนละกันนะ
เดินเอาขวดน้ำไปไว้ที่เดิม เลยดูขวดอื่น มีเขียนเป็นภาษาอังกฤษ Mineral water เออ เอาอันนี้แหละ น้ำเปล่า ชัวร์!! ฮ่าๆ  เลยหยิบไปจ่ายตังค์  ร้านค้าปิดหมดแล้ว ไม่เหมือนตอนกลางวัน เงียบมาก ลมพัดหนาวมาก เจอแมคโดนัล ฝากท้องที่แมคละกัน ขี้เกียจเดินแล้ว อยากกลับไปอาบน้ำ นอนแล้ว กินแมคเสร็จ เดินผ่านโคมแดงมาเป็นถนนนากามิเสะ เป็นถนนที่ขายของ ขนม ของฝากที่วัดเซ็นโซจิ ค่ำแล้วปิดไปหลายร้านแล้ว


แต่ร้านซาลาเปาทอดในตำนานยังไม่ปิด คนน้อยดี เลยซื้อมาชิม รสอะไรไม่รู้ ถั่วแดงมั้ง มีหลายรส เรายืนชี้ๆ คนขายก็หยิบใส่กระดาษให้ ไม่ใช่ถุงพลาสติก ดีอ่ะ ลดโลกร้อน ย่อยสลายง่ายด้วย กระดาษเป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออกจ้า อร่อยอยู่นะ อากาศหนาวๆกับซาลาเปาทอดอุ่นๆ




 ตอนกลางวันนี่คนเยอะมาก ถ้าใครมาเที่ยววัดเซ็นโซจิ เค้าบอกว่าต้องแวะมากินซาลาเปาทอดร้านนี้นะ
1 ทุ่มแล้ว วัดเงียบมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย มีแค่เราที่เดินกลับที่พัก ไม่น่ากลัวเลย ไม่กลัวว่าจะโดนจี้ปล้นด้วย โตเกียวปลอดภัยมากๆ


เรากลับถึงห้อง อาบน้ำ สระผม ชาร์จแบตโทรศัพท์เข้าเน็ทดูพยากรณ์อากาศที่ Kawaguchiko ว่ามีหิมะตกมั้ย ปรากฏว่าในเว็บบอกว่า Sunny เฮ้อ! จะได้เล่นมั้ย หิมะอ่ะ > < 
สามทุ่ม เอนรี่ แฟนเพลงชาวนอร์เวย์ของเรา(เค้าเคยฟังเพลงที่แกเล่นรึยัง ฮ่าๆ) ก็กลับมา คุยกันว่าวันนี้ไปไหนมาบ้าง แล้วพรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหน

เรา : พรุ่งนี้ไอจะไปKawaguchiko แต่ในเว็บบอกว่าอากาศดี ไอไปถามคนขับรถบัสวันนี้ เค้าก็บอกไอว่าหิมะน่าจะละลายไปหมดแล้ว ถ้าอยากเห็นหิมะ ก็อยู่บนยอดฟูจิไง ยอดฟูจิก็มีหิมะ ไอเลยบอกว่า ไออยากสัมผัส ไออยากปั้นsnow man
เอนรี่ : แล้วยูรู้มั้ยว่าหิมะใกล้โตเกียวมีที่ไหนอีก
เรา :  ก็มีที่ Nikko, Kuruizawa ,Takayama, Shirakawago  แต่ไอมาญี่ปุ่นครั้งแรก ไอจะงง แต่ Kawaguchiko จะไปง่ายนั่งบัสจากShinjukuไปได้ ไม่ไกลมาก ถ้ามาญี่ปุ่นเดือนมกรา ช่วงที่มีหิมะตกหนัก ไอกลัวไอเป็นไข้ ร่างกายปรับไม่ทัน ไทยแลนด์เป็นเมืองร้อน ไอเลยเลือกมาเดือนนี้

เอนรี่ ดูท่าทางเห็นใจกับการตามหาหิมะของเรามาก เอนรี่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง บอกให้ไปเล่นเมืองอื่นก็ไม่ไป ก็ไอหาข้อมูลมาแค่นี้ แถมแลกตังค์มาพอดีอีก ถ้าเปลี่ยนเมืองค่าใช้จ่ายจะบาน เราก็เลยยืนยันที่จะไปKawaguchikoอยู่ดี เอนรี่เอารูปในเฟสบุคให้เราดู พ่อของเอนรี่เพิ่งอัพรูปหิมะตกที่นอร์เวย์ตอนนี้ หิมะตรึมมากๆ  เราเห็นรูปแล้วบอกเอนรี่ว่า ไออยากไปนอร์เวย์เดี๋ยวนี้เลย ฮ่าๆ ก็เลยบอกว่าพรุ่งนี้ไอจะตื่นไปขึ้นรถแต่เช้า ขอโทษด้วยถ้าไอทำเสียงดังรบกวนยูนะเอนรี่
ก็เลยปิดไฟ กำลังจะนอนเลยนอนคิด รู้ว่าไม่มีหิมะแล้วจะไปอยู่เหรอ เอาโทรศัพท์มาเปิดดูพยากรณ์อากาศอีกที  คืนวันเสาร์จะมีหิมะตก ยาวไปถึงตอนเช้าวันอาทิตย์ !! แล้วเปลี่ยนเป็นฝนตกทั้งวัน !! เอาเว้ยเฮ้ย!! บินมาไกล ต้องเอาให้สุด ฟูจิไม่เน้น เราเน้นหิมะ เราเปลี่ยนแผน พรุ่งนี้เราจะไปเปลี่ยนตั๋ว

พรุ่งนี้เราไม่ไป Kawaguchiko!!


ไปต่อกันที่ >> EP. 3.1 around Tokyo (1)  คลิก>>http://arrowinjapan.blogspot.com/2015/03/ep31-around-tokyo-1.html

Facebook : https://www.facebook.com/Journey-of-Arrow-1161356250559423/?fref=ts

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น