โตเกียวอะเกน : กว่าจะถึงโตเกียว

เก็บของออกจากบ้านมา ก่อนบินเราค้างที่โฮสเทลก่อนไปสนามบินค่ะ
เจอรูมเมทเป็นสาวญี่ปุ่นชื่อ "เอริ" เอริกำลังจะบินไปหาเพื่อนที่สวีเดน แต่มาแวะเที่ยวกรุงเทพก่อน
เราขอให้เอริตั้งชื่อภาษาญี่ปุ่นให้  ไปอยู่ที่นู่น โฮสจะได้เรียกง่ายๆ เอริตั้งชื่อให้เราว่า"ยูมิ"ค่ะ
ได้ชื่อที่จะไปใช้ที่นู่นแล้ว เย็นวันนั้นเรานั่งแอร์พอร์ตลิ้งค์มาที่สุวรรณภูมิ เครื่องเราออกประมาณ 4 ทุ่ม รีบเช็คอิน รีบไปเดินกรีดกรายในเกทดีกว่า รอบนี้ถือเป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดครั้งแรกในชีวิตเลย

พร้อมผจญภัยในต่างแดนกับ"ยูมิจัง"รึยังคะ?

ถ้าพร้อมแล้ว ..........GO !!!!!!!!!!


Take off Bye Bye Thailand ไม่หลับไม่นอน ทานอาหาร นั่งดูหนัง Fast 7 Sound Track ซับญี่ปุ่น
ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง ฮ่าๆ เกือบไม่ได้ดูเพราะหารีโมทไม่เจอ (อยู่ตรงที่วางแขน แฮ่ๆ ปกติไม่ค่อยได้นั่งFull service เท่าไหร่ค่ะ 5555 ) ว่าจะหลับแต่นอนไม่หลับ นั่งไปนั่งมาคุณแอร์เปิดไฟ บอกว่าเครื่องจะลงที่โตเกียวแล้ว เอ๊า! ยังไม่ได้นอนเลย เราเลือกนั่งฝั่งซ้ายเพื่อที่จะได้เห็นฟูจิ ก็เห็นไกลๆนะคะ แต่หิมะยังไม่ตก

มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นยอดฟูจินิดๆ


ในที่สุดก็มาถึงโตเกียวจนได้ รอบนี้ลงที่สนามบินฮาเนดะค่ะ
มาถึงเกือบหกโมงเช้า สรุปว่า ฟ้าสางที่โตเกียวค่ะคุณผู้ชม!!


เดินลงจากเครื่องผ่านตม. มาแบบชิลๆ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพซักคำ แต่พอมารอรับกระเป๋าแล้วต้องผ่านด่านศุลกากร เราโดนเจ้าหน้าที่ขอค้นกระเป๋าด้วยค่ะ ><  แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ผ่านมาด้วยดี
สเต็ปต่อไป เราจะนั่งรถไฟจากฮาเนดะไปอะซาคุสะค่ะ  ต้องนั่งรถไฟเคคิว แค่กดตั๋วก็จะไม่รอดแล้ว
ยังดีที่คุณลุงคนญี่ปุ่นที่ยืนอยู่ข้างหลังเรา คุณลุงพูดภาษาอังกฤษได้ มาช่วยกดตั๋วให้ค่ะ ใจดีมากๆ
อะลิกาโตะโกไซมัสคุณลุงค่าาา ^^

ได้ตั๋วมาแล้วลงไปด้านล่างกันค่ะ  ยืนอยู่ประมาณเกือบ 20 นาที  รถไฟผ่านไปประมาณเกือบ 10 ขบวน
ไม่ยอมขึ้นสักที รถไฟตรงนี้ไปได้หลายทางค่ะ บางขบวนก็ถึงบางขบวนก็ไม่ถึงอะซาคุสะ ยืนง่วงๆ งงๆ อยู่นาน  จนเจอฝรั่งมายืนรอรถไฟ เลยถามเค้าดู (ฮีมาจากเบลเยียมค่ะ) เค้าบอกว่าขึ้นขบวนเดียวกับเค้าก็ได้ค่ะ ดูจากจอด้านบนน่าจะผ่านอะซาคุสะ เราก็เออ ออขึ้นรถไฟตามเค้าไป หลังจากจดๆจ้องๆอยู่นาน
นั่งยาวๆ ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็มาถึงอะซาคุสะค่ะ



เช็คอินเข้าห้องได้ตอนบ่ายโมง แต่เราเพิ่งไปถึงตอนแปดโมง เลยฝากระเป๋าไว้ บ่ายค่อยกลับมาใหม่
เราเลยจะไปลองทานราเมงข้อสอบดูค่ะ มีหลายสาขาเลยในโตเกียว วันนี้เราเลือกไปทานที่สาขา Shimbashi ค่ะ นั่งรถไฟมาที่สถานี Shimbashi ค่ะ

โตเกียวเดือนตุลา อากาศกำลังเย็นสบายเลยค่ะ 21 องศา ^^



"ราเมงข้อสอบ" (Ichiran Ramen) ที่ร้านจะให้กระดาษมามีช้อยส์ให้เลือกว่าชอบเส้นแบบไหน น้ำซุปแบบไหน ใส่พริกเผ็ดมากมั้ย เราก็วงๆไปมั่วๆ ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้แข็งแรงมากนะคะ ฮ่าๆ ก๊อกน้ำด้านข้างซ้ายมือกดน้ำทานได้  เรางัดอยู่นาน ก๊อกน้ำที่ร้านเค้าเกือบพัง กดไม่ออก กดไม่เป็น ฮ่าๆ  แต่วุดท้ายก็กดได้นะคะ

นี่คือหน้าตาราเมงของเรา ผักไม่ใส่ พริกใส่นิดเดียว นี่มันราเมงเด็กชัดๆ ><



ทานราเมงเสร็จ เราก็กลับไปที่อะซาคุสะค่ะ ตอนกลางวันคนเยอะเหมือนเดิม เดินเต็มถนนนากามิเสะเลยล่ะค่ะ เราก็ไม่พลาดจัดซาลาเปาทอดในตำนานมาทาน


นั่งเล่นแถววัดเซ็นโซจิ จนเกือบบ่ายโมงก็กลับเข้าที่พัก เช็คอิน เข้าห้อง นอนยาวๆเลยค่ะ
เมื่อคืนไม่ได้นอน ตื่นมาอีกทีก็หกโมงเย็นแล้ว ข้างนอกมืดแล้วค่ะ หาอะไรทาน
แล้วไปวิ่งเล่นริมแม่น้ำสุมิดะ  เห็นตึกTokyo skytree แล้วก็ตึกฟองเบียร์ฮาซาฮีด้วยค่ะ  เราเดินเล่นข้ามสะพานมาเรื่อย  หนาวมากๆค่ะ ลมเแรง แต่ก็ยังเดินมาเรื่อย จนทะลุมาถึงตรงนี้

Tokyo Skytree



ดูท่าทางจะไกลอยุ่จากตรงนี้ไปโตเกียวสกายทรี เราเลยตัดสินใจเดินกลับค่ะ หนาวด้วย เพลียด้วย
ไปอาบน้ำนอนดีกว่า เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นไปขึ้นรถที่ชินจูกุ เพื่อไปบ้านโฮส

หน้าวัดเซ็นโซจิ ยามค่ำคืน คนน้อยค่ะ ผิดกับตอนกลางวันลิบลับเลย



เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะเริ่ม WWOOF แล้วนะ ^^

โปรดติดตามตอนต่อไป >> โตเกียวอะเกน : WWOOF DAY 1 กว่าจะถึง Azumino >> http://arrowinjapan.blogspot.com/2016/04/wwoof-day-1-azumino.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น