โตเกียวอะเกน : Last day ทักทายฟูจิ & วิ่งเล่นที่ Kawaguchiko

และแล้วงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่เที่ยวที่ญี่ปุ่นแล้ว
พรุ่งนี้ต้องไปสนามบินแต่เช้า ไฟลท์ของเรา 11 โมง นั่นหมายความว่า มีเวลาเที่ยววันนี้เต็มวัน
วันนี้ตั้งใจไปดูฟูจิค่ะ หลังจากที่มาเดือนกุมภา แต่ไม่เห็นเพราะฝนตก แต่ดีใจที่เจอหิมะ เพราะรอบนั้นตั้งใจมาดูหิมะ  จองตั๋วไปตั้งแต่เมือคืนค่ะ เช้านี้ก็ออกมาเลย มาขึ้นรถที่ชินจูกุค่ะ

ระหว่างทางก็เจอเคาท์เตอร์ขายตั๋ว รถบัสไปสนามบินฮาเนดะ ก็เลยซื้อตั๋วสำหรับวันพรุ่งนี้เลย
เคาท์เตอร์อยู่นี่


รอบ 07:45 วันที่ 19/10 ราคา 1,230 เยน
ขึ้นรถที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ


จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถที่คิวรถบัสไปคาวากุชิโกะค่ะ วันนี้วันอาทิตย์ คนเยอะเลย รอบเช้าๆก็เต็มหมดแล้วด้วย เลยได้รอบสายๆค่ะ

วันนี้นั่งแถวหลังสุดเลย รถติดด้วยค่ะ โอ้ว จอร์จ ญี่ปุ่นรถติด!
นั่งมาเรื่อยๆ ก็ตกใจกับวิวข้างหน้าต่าง
ฮัลโหล!!!! ฟูจิซัง !!! >< สวยมากค่ะ ลูกใหญ่มากกกกก


รถแวะไปจอดส่งคนที่สวนสนุกฟูจิคิวก่อน จากนั้นก็มาส่งที่สถานีคาวากุชิโกะเป็นที่สุดท้าย
รถติดค่ะ ดีเลย์ไปชั่วโมงกว่า  มาถึงที่นี่เกือบ บ่ายโมง แต่ไม่ร้อนเลย 21 องศาเท่านั้น


สวยงามตามท้องเรื่อง ^^


เนื่องจากมาถึงเลท มีเวลาไม่มาก บ่ายสี่โมงก็ต้องนั่งรถกลับโตเกียวแล้วค่ะ เลยใช้บริการรถ shuttle bus ที่วิ่งรับ-ส่ง ตามจุดต่างๆ รอบทะเลสาบ

ได้ตั๋วมาแล้ว 1200 เยนค่ะ


ของเราเลือกลงที่ป้ายสุดท้ายเลยค่ะ นั่งยาวๆมาเลย เห็นในรีวิวบอกว่าเป็นจุดที่ชมฟุจิที่สวยที่สุด
มีเวลาไม่มาก แวะเยอะไม่ได้ค่ะ ก็เลยลงป้ายนี้ ลงรถมาแล้ว

ตรงนี้จะมีห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก มีร้านกาแฟให้นั่ง จิบกาแฟ ชมวิวฟูจิด้วยค่ะ


วันนี้ท้องฟ้าเป็นใจ  หลังจากที่ฝนตกในโตเกียวติดกันหลายวัน ^^ ถ้ามาเดือนกุมภา หิมะบนยอดน่าจะเยอะกว่านี้ค่ะ นี่หิมะเพิ่งตกไปเมื่อต้นเดือนเองค่ะ เป็นหิมะแรกของปีนี้ (2015)
นึกว่าจะไม่ได้เห็นแล้ว ^^


อีกมุมนึง ดอกอะไรไม่รู้สวยดีค่ะ ^^



ต้นนี้สวยดีค่ะ สีแดงๆ ขนๆ


อากาศดีมากๆ ใบ้ไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้วค่ะ ต้นนู้นเหลืองทั้งต้นแล้ว


ฟูจิ อีกมุมนึง


หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูป พักผ่อนหย่อนใจ ก็นั่งรถกลับค่ะ เดี๋ยวจะตกรถกลับชินจูกุ ฉุกละหุกจริงๆ 
ถ้ามีเวลา น่ามานอนค้างสักคืนค่ะ ^^ 

นั่งรถกลับมาแล้ว รถออก 16.40 น. ค่ะ นั่งเล่นแถวนี้


ซื้อชาเขียวมาทาน อากาศเย็นๆ ไปหาอะไรดื่มใน Lawson ได้ชาเชียวอุ่นๆมาขวดนึงค่ะ
แล้วพบว่า"ชาเขียวที่ญี่ปุ่น ไม่หวานค่ะ" คุณผู้ชม! ><


นั่งเล่นตรงนี้ หันหน้าเข้าหาคุณฟูจิ ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน แล้วกำลังจะกลับแล้ว เห้อ!! เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ เริ่มเย็นก็เริ่มหนาวแล้วค่ะ >< 

ฟูจิซังส สวยมาก ใหญ่มาก อลังการสุด ดูในรูปจะเฉยๆค่ะ ต้องมาดูด้วยตาตัวเองค่ะ ^^


รถมาตรงเวลาค่ะ จากนั้น ก็นั่งรถกลับชินจูกุ 

บรรยากาศบนรถ เศร้าๆเนอะ ยูมิจังจะกลับแล้วน๊า 

บ๊ายบาย ฟูจิซัง เดี๋ยวมาหาใหม่ค่า ^^


ขากลับนี่รถติดอีกแล้วค่ะ เลทไปชั่วโมงนึง มาถึงชินจุกุ 2 ทุ่ม จากนั้นก็นั่งรถไฟกลับอะซาคุสะ 
หาข้าวทานแล้ว เข้าที่พัก เก็บของ เตรียมกลับไทย แง๊ !! 

เช้าวันต่อมา ต้องกลับจริงๆแล้วค่ะ ใจหายมากกกก - - ไม่อยากกลับเลย
แต่สุดท้าย ชีวิตคนเราก็ต้องเดินต่อไป.....

เช้านี้


บ๊ายบาย ถนนนากามิเสะ เป็นถนนที่เราต้องเดินผ่านทุกวันเลยค่ะ จากสถานีรถไฟใต้ดินกลับมาที่พัก
ว่าจะกินซาลาเปาทอดซะหน่อย แต่เช้าเกิน ร้านยังไม่เปิดเลย 


มาถึงหน้าวัด



นั่งรถไฟใต้ดินมาที่ชินจูกุ มาขึ้นรถไปสนามบินฮาเนดะค่ะ 
ขึ้นมาบนรถแล้ว 


รถนั่งสบายค่ะ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสนามบินฮาเนดะค่ะ 


เข้าไปเช็คอิน รับบอร์ดดิ้งพาส แล้วก็ไปเดินเล่นค่ะ แวะมาดูจุดชมเครื่องบินของสนามบินฮาเนดะค่ะ 



ใกล้ได้เวลาก็ผ่าน ตม. เข้าไปในเกทกัน วันนี้หวยออกเกท 147 ค่ะ 


จากโตเกียวกลับกรุงเทพ ถ้าบินตอนกลางวันแล้วอยากเห็นฟูจิ ต้องนั่งฝั่งขวามือค่ะ 

Take off  บ๊ายบาย โตเกียว 

ใช้เวลาไม่นานก็จะมองเห็นฟูจิค่ะ นั่นไง 


ซูมเข้าไปอีก 


ไฟลท์นี้จากการคาดคะเนด้วยสายตา คนญี่ปุ่นประมาณ 95% ค่ะ 


นั่งดูวิวบ้าง ดูหนังบ้าง กินบ้าง หลับบ้าง เกือบหกชั่วโมง การเดินทางอันแสนยาวไกลของยูมิจัง
ก็กำลังจะสิ้นสุดลง 

กำลังจะแลนด์ที่สุวรรณภูมิแล้วค่ะ วิวนี้ที่คุ้นตา 


ระหว่างเครื่องกำลังจะลง ฝนตกเฉยเลยค่ะ 
และแล้วก็ Welcome home นะยูมิจัง ถึงไทยอย่างปลอดภัย ^^ 
การไปญี่ปุ่นครั้งนี้ ทั้งสนุก ประทับใจ พร้อมกับได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ
ถือว่าตัดสินใจไม่ผิด ที่ได้เดินทางไปในครั้งนี้ 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^ แล้วพบกันใหม่ค่า ^^



แวะไปคุยกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/Journey-of-Arrow-1161356250559423/

โตเกียวอะเกน : วิ่งเล่นอีกวัน

เช้านี้สลับโปรแกรมกับวันสุดท้ายค่ะ ความจริงวันนี้ต้องไปคาวากูชิโกะ ไปหาคุณฟูจิซังแต่วันนี้ฝนตก
ถ้าไปแล้วต้องไม่เห็นแน่ๆ เลยเอาไว้ไปวันพรุ่งนี้ก่อนกลับไทยค่ะ
โปรแกรมวันนี้ก็เลยชิวๆ วันนี้ตื่นสายไม่รีบ  ออกมาเกือบสิบโมง เคยดูโคนัน เป็นแฟนคลับโคนันค่ะ
เก็นตะคุง ชอบกินข้าวหน้าปลาไหล  เราไม่เคยทานเลยอยากรู้ว่าเป็นยังไง ทำไมเก็นตะคุงถึงชอบทานขนาดนั้น ก็เลยสอบถามสตาฟที่โฮสเทลค่ะ ให้ช่วยหาร้านขายข้าวหน้าปลาไหลแถวๆนี้ให้หน่อย
ไม่ต้องเอาร้านดังก็ได้ แค่อยากลองทานค่ะ ได้ความมาว่า แถวๆนี้จะมีร้านYoshinoya อยู่ข้างห้างดองกี้ค่ะ ก็เลยเดินออกมาทานข้าวหน้าปลาไหล

เดินตามทางมาเรื่อยๆ ฝนพรำเล็กน้อยค่ะ อากาศเดือนตุลาแปรปรวนนิดนึง
เดินวนๆจนมาเจอห้างดองกี้


พยายามมองหาป้ายส้มๆ เจอแล้วค่ะร้าน Yoshinoya


เดินเข้าไปนั่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ เมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะมีรูป อิอิ
ชี้เลย เอาแบบไหน


รอไม่นาน มาแล้ว "ข้าวหน้าปลาไหล" เซ็ทนี้ 820 เยนค่ะ
เนื้อปลาไหลนุ่ม อร่อยมากค่ะ กินข้าวๆอากาศหนาวๆ ฝนพรำๆแล้วซดน้ำซุปตาม โอ๊ย ฟินสุด!!
แต่แอบแพง( นิดนึง><)


ทานเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ วัดเซ็นโซจิเช้านี้ นักท่องเที่ยวเยอะทุกวันค่ะ


เนื่องจากเป็นบัตรเหมา 3 วัน ขึ้น-ลงกี่เที่ยวก็ได้  เดี๋ยวจะไปชมวิวฟรี
ที่ชั้น 45 ของตึก Tokyo Metropolitan Government ค่ะ ก่อนไปถึงผ่านสถานี Kamiyacho ค่ะ
ถ้าจะมาโตเกียวทาวเวอร์ ก็ลงสถานีนี้ได้เหมือนกันค่ะ

เที่ยงแล้ว ฟ้าหม่นๆ ฝนเพิ่งหยุดตกค่ะ

สวัสดี..โตเกียวทาวเวอร์ ^^


แวะทักทายโตเกียวทาวเวอร์แล้วไปกันต่อค่ะ
สำหรับตึก TMG ขออนุญาตเรียกย่อๆนะคะ จะอยู่ย่านชินจูกุค่ะ ชั้น 45 ของตึกนี้จะเป็น observation desk
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมวิวได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

เรานั่งใต้ดินมาลงที่สถานี Tocho-mae ค่ะ เดินออกมาแล้วมีเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้วย
เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ค่ะ เดินตามทางออกมา โผล่ขึ้นมาก็เจอเลย สูงมาก แหงนสุดคอค่ะ ^^


เดินเข้ามาในตึกจะเจอ ป้ายบอกทาง จะเห็นมีนักท่องเที่ยวต่อแถวยาวๆหน้าลิฟท์ ตรงนั้นจะเป็นลิฟท์ที่ไว้ขึ้นไปบนชั้น 45 ค่ะ มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกค่ะ

ไม่ถึง 1 นาทีก็ขึ้นมาด้านบนแล้ว ถ้าอากาศดีๆ ฟ้าใสๆ เห็นไปถึงฟูจิซังเลยค่ะ แต่วันนี้ฝนตก - -"
ฟ้าเลยหม่นๆ อย่างที่เห็น แต่พรุ่งนี้ขอให้ไม่หม่นนะ ^^


ตึกเยอะแยะเต็มไปหมดเลยค่ะ


มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาด้านบนไม่เยอะมากจนวุ่นวาย ตอนที่ไปก็เจอกรุ๊ปจีน กรุ๊บนึงค่ะ
หิวน้ำค่า กดน้ำกินสักหน่อย ขวดเล็กน่ารัก  โตเกียวจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิค ปี 2020 ค่ะ
ถึงตอนนั้น คงจะคึกคักเลยทีเดียว


มีร้านขายของทีระลึกด้วยค่ะ


อยู่ที่นี่บ่ายสองกว่าๆ ก็เลยไปที่อื่นต่อ อยากได้ไม้กลอง(อีกแล้ว) เลยหาข้อมูลย่านที่ขายเครื่องดนตรีในโตเกียว ได้ความว่าแถวๆสถานี Ochanomizu จะเป็นย่านขายเครื่องดนตรี ก็เลยจะลองไปดูค่ะ

มาถึงแล้วสถานี Ochanomizu


เดินขึ้นมาไม่รู้จะไปทางไหน เจอสาวญี่ปุ่นเลยถามเค้า "ซุสิมาเซ็น, กีต้าร์ กีต้าร์ " พร้อมทำท่าดีดกีต้าร์
ใบ้สุดฤทธิ์ ฮ่าๆๆ แล้วเค้าก็ชี้บอกทางค่ะ อาริกาโตะค่า^^

เดินมาอีกฝั้่งนึงเริ่มเจอร้านขายเครื่องดนตรีแล้วค่ะ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย


เราก็เดินเข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ ในที่สุดก็ได้ไม้กลองฟรอมเจแปน มาครอบครองค่ะ ฮี่ๆ
ใครอยากมาเดินดูเครื่องดนตรี ย่านนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ


ตอนนี้เกือบห้าโมงเย็นแล้วค่ะ เริ่มมืด เริ่มหิวแล้ว ก็เลยกลับไปหาโตเกียวทาวเวอร์
ก่อนจะเข้าที่พัก

นั่งรถไฟกลับมาที่ สถานี Kamiyacho ค่ะ
ระหว่างทางเจอร้าน Yoshinoya ทนหิวไม่ไหว เลยเข้าไปทานข้าวเย็นก่อน

มื้อเย็นของเราวันนี้ ^^ เซ็ทนี้ 530 เยนค่ะ


ทานเสร็จแล้วเดินไปหาโตเกียวทาวเวอร์
เราชอบโตเกียวทาวเวอร์จริงๆ สวยค่ะ สวย ^^

ฟ้าเริ่มมืดแล้วค่ะ


เราอยู่ตรงนี้จนค่ำ แล้วก็นั่งรถไฟกลับอะซาคุสะ


พอกลับมาก็เลยใช้คอมพิวเตอร์ที่โฮสเทล จองตั๋วไปคาวากุชิโกะค่ะ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ด้วย
กลัวรถเต็ม แถมเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เที่ยวโตเกียวแล้ว เช้าวันจันทร์ต้องบินกลับไทยแล้วค่ะ
ก็เลยไปจองตั๋ว ขาไปนี่ได้รอบเกือบเที่ยงแน่ะ (รอบเช้าๆเต็มหมดค่ะ >< )
ขากลับโตเกียวเป็นรอบ 16.40 น.

พรุ่งนี้เราจะไปหาคุณฟูจิซังกันค่ะ ขอให้ท้องฟ้าแจ่มใส มองเห็นฟูจิซัง ชัดแจ๋วด้วยเถอะ ^^

โปรดติดตามตอนต่อไป ตอนสุดท้ายของ โตเกียวอะเกน >> http://arrowinjapan.blogspot.com/2017/04/last-day-kawaguchiko.html

โตเกียวอะเกน : โตเกียว..วันฝนพรำ

เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับเสียงฝนตก เปิดม่านออกไปตรงหน้าต่าง วันนี้ฝนตกแต่เช้าเลย
วันนี้ไม่รีบค่ะ เที่ยวชิวๆ เช้านี้ต้องไปแก้ตัวกับราเมงข้อสอบ สำหรับรอบนี้เราจะไปทานที่สาขา Ueno
จากนั้นก้จะไปเดินหาซื้อขนมของฝากที่ตลาด Ameyoko

พร้อมแล้วไปกันเลย เก้าโมงกว่าๆ เดินออกจากที่พักไปทางวัดเซ็นโซจิ
เห็นโตเกียวสกายทรีในม่านหมอก


เดินออกมาทางถนนนากามิเสะ เพื่อที่จะไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน
มองกลับมาที่วัดเซ็นโซจิ

เคยอ่านเจอ ประโยคนึง เค้าบอกว่า

"ร่มไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ฝนหยุดตก
แต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราเดินต่อไปได้...ท่ามกลางสายฝน" : )


สำหรับบัตรรถไฟฟ้าที่เราใช้จะเป็น บัตรรถไฟฟ้าใต้ดิน Tokyo subway pass แบบเหมา 3 วัน ราคาใบละ 1500 เยนค่ะ อันนี้ซื้อไว้ตอนลงจากเครื่องที่สนามบินฮาเนดะ จะมีเคาท์เตอร์ขายอยู่ตรงทางผู้โดยสารขาเข้าค่ะ  ใช้ได้ถึงรถไฟฟ้ารอบสุดท้ายของวันที่ 3 หน้าตาบัตรเป็นแบบนี้ (เดินทางเมื่อ ตุลาคม 58)

แต่ปัจจุบันเปลี่ยนใหม่เป็นรายชั่วโมงคือแบบ 24/48/72 ชั่วโมงค่ะ ถือว่าสะดวกกว่าเดิมมาก^^
รายละเอียดเพิ่มเติมตามนี้เลยค่ะ >> http://www.tokyometro.jp/th/ticket/value/travel/index.html




การเดินทางไปยังราเมงข้อสอบ สาขา Ueno (อ่านว่า อุเอโนะ  แต่ตอนมาโตเกียวครั้งแรก เราอ่านว่า "ยูโน่" ฮ่าๆๆ)

ถ้ามา JR ให้ลงสถานี Ueno ออกทาง Yamashita Exit
ส่วนใครมาทาง metro ก็ให้ลงสถานี Ueno
แล้วเดินออกมาหา สาถานี JR มองหาป้าย Yamashita exit เราเดินวนอยู่ประมาณนึง เนื่องจากเป็นสถานีใหญ่ และคนเยอะค่ะ  เดินวนๆมาก็เจอทางออก ตรงนี้

Yamashita Exit  เดินตรงออกไปแล้วเลี้ยวขวาค่ะ



จะเจอร้านราเมงอยู่ฝั่งขวามือค่ะ หาง่าย ไม่หลง


เดินเข้าไปในร้านเจอตู้กดตั๋วก็จัดการหยอดตั๋วค่ะ เรากินแบบธรรมดา ไม่Add on
หยอดไป 790 เยน ได้ตั๋วแล้วไปนั่งทำข้อสอบค่ะ  รอบนี้ไม่งัดก๊อกน้ำเค้าแล้วค่ะ กดน้ำเป็นแล้ว ฮ่าๆ
รอบแรกได้ราเมงเด็กมากิน  รอบนี้โรยผัก แล้วเขียนความเผ็ดระดับ เบอร์ 4 ค่ะ
ได้มาหน้าตาแบบนี้ เผ็ดแสบลิ้นตัวเอง เหอๆ (เป็นคนไม่กินเผ็ดมากค่ะ)  รวมๆอร่อย อากาศหนาวๆกินราเมงร้อนๆ โอ๊ย ฟินค่ะ

"อิต๊ะด๊ะคิมัส!!  (จะกินแล้วน๊าค๊าา ^/\^ )


ทานราเมงเสร็จไปวิ่งเล่นกันต่อ ที่ตลาดAmeyoko แหล่งรวมสินค้า ของฝาก ของกินต่างๆ
ถ้ามา Metro ให้ลงสถานี Ueno ออก Exit 5 ค่ะ

เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ ข้ามถนนมา เจอแล้ว Ameyoko


มีของขายเยอะแยะเลย ทั้งขนม ของฝาก ร้านอาหาร มีผลไม้สดหลายร้านเลย
จัดสตรอเบอรี่มาล้างปากซะหน่อย
ไม้นี้ 200 เยนค่ะ ลูกโตๆ หวาน อร่อย ^^


เดินวนๆอยู่ในตลาด จนเจอของที่อยากได้แล้ว แต่ยังไม่ซื้อค่ะ ขี้เกียจถือ
เลยจะไปเดินเล่นที่ Ueno Park ก่อน สำหรับทางไปนั้น เราถามค่ะ

เห็นผู้หญิงวัยรุ่นหน้าหมวยๆ สองคนเดินมาด้วยกัน เลยเดินไปถามเค้า

เรา :  ซูมิมาเซน , Ueno park ??
เค้า : (งง แล้วมองหน้ากัน ) sorry, I'm Chinese.

ผ่างงงงงงงง!!!!

ไม่ใช่คนญี่ปุ่นค่ะ และเค้าน่าจะไม่รู้ด้วย ฮ่าๆๆ

โอเค เดินต่อไป แต่ก็พยายามมองหาป้าย  เจอคนญี่ปุ่นเดินมา คนนี้น่าจะญี่ปุ่น ชัวร์ๆๆๆ
เลยถามเค้า เคาก้ชี้ไปที่ฝั่งตรงข้ามที่เราเดิน  เราก็"อาริกาโตะค่าา^^"

เดินข้ามถนนมาเจอตรงที่มีต้นไม้เยอะๆ น่าจะอันนี้แหละ เดินเข้าไปโลด


เดินตรงเข้าไป นี่หรือโตเกียว มีสวนที่ร่มรื่นแบบนี้ด้วย ด้วยความที่ฝนเพิ่งตกเสร็จ และอากาศที่โตเกียวก็เย็นอยู่แล้ว เลยทำให้หนาวเข้าไปอีก ><


ยิ่งเดินยิ่งหนาว เจอศาลเจ้าด้วยค่ะ น่าจะทางเข้าวัดรึเปล่า
แต่ Ueno park เราไม่ได้หาข้อมูลมาว่ามีอะไรบ้าง ใหญ่แค่ไหน


ดูเหมือนว่าจะมีทางเดินต่อไปเรื่อยๆๆ เราเลยเดินกลับไปซื้อของที่ Ameyoko ก่อนแล้วเอาของไปไว้ที่ห้อง เด๊่ยวเย็นๆค่อยออกมาใหม่ ว่าจะไปกินสตาร์บัคที่แยก Shibuya ค่ะ ^^

ขากลับจาก Ueno มาที่ Asakusa แวะซื้อซาลาเปาทอด ^^


เอาของไปเก็บ พักผ่อนที่ห้อง ตอนเย็นเลยออกมาใหม่ เดี๋ยวจะไป Shibuya กันค่ะ
ขึ้นรถไฟไป Shibuya กันค่ะ



นั่งยาวๆก็มาถึง Shibuya ครึ้มๆเหมือนฝนจะตกอีกแล้ว ><

แยก Shibuya มุมจากด้านบน


เดินลงมาข้างล่าง เจอรูปปั้นเจ้า "ฮาจิโกะ"


รอข้ามถนนไปกินสตาร์บัคฝั่งตรงข้ามค่ะ  จะอยู่ชั้น 2 ของตึก Tsutaya


เดินข้ามาแล้ว เข้ามาซื้อชาเขียวค่ะ คนเยอะทีเดียวแต่รอไม่นานมาก ไม่รู้ขึ้นไปจะมีที่นั่งรึเปล่า
แต่รอบนี้อุตส่าห์ตั้งใจจะมากินแล้ว ก็ต้องตามนั้น ได้ชาเขียวมาแล้วเดินมาชั้นสอง 
เต็มค่ะ ! ไม่มีที่นั่ง เลยยืนรอแป๊บนึง มีฝรั่งเพิ่งลุกออกไป คือมุมดีมาก เห็นวิวห้าแยกชัดเจน
แต่ไม่ชัวร์เท่าไหร่เลยถามฝรั่งผู้หญิง เก้าอี้ข้างๆ เค้าบอกว่าไม่มีคนนั่ง 

เย่ ! ได้นั่งแล้ว 


ฝรั่งผู้หญิงที่นั่งข้างๆเรา สวยมากกกก ขาว จมูกโด่ง ผมสีทอง ทาลิปสติกสีแดง 
เราเลยชวนคุย เค้าเป็นคนลัตเวีย  เพิ่งมาจากเกียวโต เค้าเคยมาเที่ยวเกาะพะงันด้วยค่ะ 

เค้าถามว่าเราจะไปไหนต่อ ก็เดี๋ยวไปฮาราจุกุต่อ จะไปกินเครป  
ส่วนเค้านัดแฟนไว้จะไปทานข้าวเย็นกัน
เค้าทานกาแฟเสร็จ ก็เลยลุกไป บ๊ายบายค่าา Nice to meet you ^^

กินชาเขียวไปดูวิวไป  ตอนนี้โตเกียว 16 องศาค่ะ 


ทานชาเขียวเสร็จแล้ว ก็ไปกินเครปต่อที่ฮาราจูกุค่ะ นั่งmetro ไปอีกเช่นเคย 
แต่เรานั่งผิดสายค่ะ มันมี local กับ express เราโดดขึ้น express เลยไม่แวะจอดสถานี meiji-jingumae 
เราเอ๋อๆ ไปพักนึง เลยไปถามคนญี่ปุ่นว่าจะกลับไปสถานี meiji - jingumae ยังไง
เค้าดูตารางรถให้ แล้วบอกให้เรารอขึ้นรถไฟ รอบที่เค้าบอก เพราะมันจะเป็นขบวน local จอดทุกสถานี

อาริกาโตะค่าา ^^ 

มาถึงสถานี Meiji-jingumae จะไปถนนทาเคชิตะ เลยไปถามนายสถานี 
พูดแค่ว่า  "ซูมิมาเซน , ทาเคชิตะ?"
เค้าบอกว่า "three" (พร้อมชูสามนิ้ว)  

อาริกาโตะโกไซมัสค่าา ^^ 

โผล่ขึ้นมาทางออก3 ก็ยังไม่เจอ เลยถามน้องนักเรียนผู้หญิงสองคน กำลังนั่งคุยกัน
น้องมองหน้ากัน แล้วยืนขึ้น  กวักมือเรียกบอกให้เดินตามน้องไป 
คนญี่ปุ่นมีน้ำใจกับนักท่องเที่ยวเสมอ แต่เกรงใจจัง อุตส่าห์เดินพามาส่ง ระหว่างทางน้องถามว่า
"ชอปปิ้ง??"  เราก็อ๋อ ไม่จ้า มากินเครป เราเลยบอกว่า "เครปๆๆ" 

ถนน ทาเคชิตะ อยู่ exit 3 โผล่ขึ้นมาตรงมาเรื่อยๆค่ะ จะเจอซอยอยู่ฝั่งขวามือ แบบนี้คือทางเข้าถนน ทาเคชิตะนั่นเอง 

ขอบคุณน้องๆที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือพาเดินมาส่งถึงที่เลยค่ะ ^^


เดินเข้าไปเลยค่ะคุณผู้ชม  แหล่งรวมวัยรุ่นจริงๆที่นี่


ร้านเครปมีหลายร้านค่ะ เราเลือกร้านนี้ละกัน 


ดูซิมีอะไรมั่ง



มีให้เลือกเยอะเลยค่ะ เราเลือกอันนี้ละกัน "สตรอเบอรี่" 430 เยนค่ะ


เดินไปบอกคนขายว่า "นัมเบอร์ 4 "ค่ะ  ยืนรอแป๊บนึงเพราะคนเยอะค่ะ 
นี่ได้มาแล้ว เครปญี่ปุ่น แป้งเค้าไม่กรอบค่ะ แป้งนุ่ม อร่อยๆ


ร้านอื่นก็มีนะคะ เลือกได้เลยตามใจชอบ



ทานเครปเสร็จแล้ว เดินไปเดินมามีร้านขายเสื้อผ้าน่ารักๆ ด้วยค่ะ ปกติไม่ใช่ขาช้อปนะคะ
แต่เสื้อน่ารักมากๆ เลยเผลอใจซื้อไป 1 ตัว ใครขาช้อปนี่เตรียมเงินมาเยอะๆเลยค่ะ 
เสื้อผ้าน่ารักน่าซื้อไปหมดเลยค่ะ ^^ 

จากนั้นก็นั่งรถกลับมาที่ Shibuya ดูบรรยากาศยามค่ำคืน  แต่โผล่ขึ้นมาแล้วปรากฏว่า 

"ฝนตกค่ะคุณผู้ชม" !!



กลับดีกว่าหิวข้าวแล้ว นั่งรถไฟฟ้ากลับมาที่ Asakusa เดินวนๆ เห็นร้านอาหารข้างทางหลายร้าน
เดินไป มีแต่เมนูภาษาญี่ปุ่น ไม่มีรูปด้วย คนอ่านญี่ปุ่นไม่ออกอย่างเราแย่เลย

ต้องเดินวนๆอยู่นาน มีร้านอาหารยังเปิดอยู่เลยกินร้านนี้ละกัน เมนูมีรูปด้วย เลยรอดตาย ฮ่าๆ
จิ้มเมนู ได้อันนี้มากิน เย่! ^^ ชามละประมาณ 500 เยน เรียกว่าอะไรไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่อร่อยนะ



ทานเสร็จกลับห้อง ตอนแรกตั้งใจจะไปหาคุณฟูจิพรุ่งนี้ แต่วันนี้ฝนตก แถมดูพยากรณ์อากาศ  พรุ่งนี้อากาศไม่ค่อยโอเค มีเมฆ ไปแล้วเดี๋ยวมองไม่เห็นอีก เลยย้ายไปไว้วันมะรืน พรุ่งนี้เที่ยวในโตเกียวต่ออีก 1 วันค่ะ ^^

โปรดติดตามตอนต่อไป >> http://arrowinjapan.blogspot.com/2017/03/blog-post.html